Q : ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ได้มาถ่ายแบบกับนิตยสาร Singles ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์ดาร์กๆ ที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อนจนเป็นที่จับตามอง ไม่ทราบว่าตอนนั้นรู้สึกยังไงบ้างคะ?
จนถึงตอนนี้ บางทีเวลาผมเห็นรูปผมเองก็ยังรู้สึกตกใจอยู่เลยครับ ผมยังคงจำคอนเซ็ปต์แต่งตาแบบสโมคกี้อายที่ดูดุดันได้อยู่เลยครับ ถึงแม้ว่าตอนนี้ผมได้พยายามปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์โควิดแต่ผมก็ยังพัฒนาตัวเองอยู่ครับ ในความคิดของผม ผมรู้สึกว่าก็ไม่ได้รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงมากนะครับ เพราะตอนนี้ผมก็ไปทำงานสบายๆ และมีการพูดคุยเรื่องงานกับที่บริษัทอยู่ครับ
ผมยังคงโฟกัสอยู่กับงานครับ ตอนนี้การใช้ชีวิตและความคิดของคิมแจฮวานได้เปลี่ยนไปแล้วครับ เช่น ถ้าเป็นแต่ก่อน ผมจะรู้สึกกังวลมากเลยครับเพราะว่าใช้ชีวิตข้างนอกยาก แต่ว่าตอนนี้ผมได้เรียนรู้การเผชิญหน้ากับปัญหาต่างๆได้เร็วขึ้นแล้วครับ แต่ในความเป็นจริงนั้น เวลามีไม่เยอะหรอกครับ ถ้าเกิดว่าเราเอาแต่สนใจแค่ที่เราอยากทำเพียงอย่างเดียว
Q : ในการถ่ายนิตยสารครั้งแรกได้ถูกแบ่งออกเป็นสองคอนเซ็ปต์ ทั้งคอนเซ็ปต์ใบหน้าที่ใสซื่อ และคอนเซ็ปต์ใบหน้าที่ดุร้าย ไม่ทราบว่าตอนนี้รูปลักษณ์ของคุณแจฮวานใกล้เคียงกับแนวไหนมากที่สุดหรอคะ?
ดูเหมือนตอนนี้ว่าจะใกล้เคียงกับใบหน้าที่ใสซื่อมากที่สุดนะครับ ถึงแม้ว่าสายตาของผมจะดูไม่ได้ตั้งใจที่ให้มากมาแบบนั้นแต่ดูเหมือนว่าหางตาของผมจะทำให้ดูเป็นแบบนั้นนะครับ ผมไม่ได้สนใจเลยครับว่าหน้าตาของผมบนเวทีเป็นแบบไหน แต่เวลาที่มีการแสดงทีไรผมจะสามารถมองออกได้ไวครับ
ผมจะคิดแล้วว่าการแสดงนี้จะต้องเป็นคอนเซ็ปต์แบบไหน ภาพลักษณ์ของศิลปินจะต้องออกมาแนวไหนแบบนี้ครับ และเพื่อภาพลักษณ์ที่ดี หลายคนก็บอกว่าถึงแม้ว่าบนเวทีจะดูบ้าก็ไม่เป็นไรครับ (หัวเราะ) แต่ว่าพอลงมาจากเวทีแล้วก็จะต้องรักษากริยามารยาทเอาไว้ด้วยนะครับ
Q : ทางนิตยสาร Singles ได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามว่า อยากให้คงสภาพสไตล์สีผมเป็นสีบลอนด์เอาไว้ค่ะ
สำหรับการทำกิจกรรมในครั้งนี้ ผมได้ลองไว้ผมยาวที่สุดในชีวิตแล้วครับ และแน่นอนครับไม่ว่าจะออกมาด้วยลุคใบหน้าที่ใสซื่อหรือใบหน้าที่ดุร้าย ต่างก็โอเคทั้งหมดครับ แม้ว่าจะมีเสียงตอบรับที่ไม่ดีด้วยเช่นกัน แต่ว่าตอนนี้ผมก็อยากลองทำหลายสีมากขึ้นเพื่ออยากเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของผมด้วยเช่นกันครับ ถึงแม้ว่าระหว่างที่ทำกิจกรรมอยู่นั้น ผมก็พูดกับตัวเองว่า ‘เอ้ ไม่รู้แล้ว มาลองตัดผม ลองย้อมผมกันดูเถอะ’ แล้วได้รวบรวมความกล้าและลองทำดูครับ
ถึงแม้ว่าการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างจะออกมาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ว่าโลกใบนี้เวลามันเดินเร็วครับ ผมเองก็ทำกิจกรรมในแต่ละครั้งด้วยความแม่นยำที่รวดเร็วครับ และแน่นอนว่าสีผมของผมเป็นสีดำทั้งหมดอยู่แล้ว ผมก็เลยกัดผมไปประมาณ 3 ครั้งได้ครับ แม้ว่าจะรู้สึกเหน็ดเหนื่อย แต่ว่าได้รับเสียงตอบรับว่าออกมาดี ผมเองก็รู้สึกอยากขอบคุณกับผมของผมด้วยเช่นกันครับ (หัวเราะ)
Q : ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะดูไปด้วยดีพร้อมกับสีผมในครั้งนี้นะคะ ซึ่งมาพร้อมกับภายใต้ของคอนเซ็ปต์ของธรรมชาติ ที่ได้ผสมผสานกับความพิเศษและจิตวิญญาณที่อิสระเข้าด้วยกันค่ะ
สถานที่ถ่ายทำนั้น เราถ่ายทำกันที่อิแทวอนครับ เป็นคอนเซ็ปต์ทะเลสีไวน์ แนวโปรตุเกส ผมชอบทุกอย่างเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศ โทนโดยรวม เครื่องแต่งกาย ทรงผม และรวมไปถึงเมคอัพด้วยครับ ฉากหลังที่มีการโพสท์ท่าถือกีต้าร์ด้วย รู้สึกเหมือนกับผมกำลังเตรียมบัสกิ้งในโปรตุเกสอยู่เลยครับ และอาจจะเป็นเพราะว่าช่วงนี้ผมออกกำลังกายด้วยครับ ถ้าเทียบกับเมื่อก่อน เหมือนชุดในแต่ละเซทที่ผมใส่ก็ดูเปลี่ยนไปเยอะเลยครับ นั้นทำให้ผมรู้สึกพอใจมากเลยครับ (หัวเราะ) และเมื่อก่อนสถานที่แถวนี้ก็เป็นที่ที่ผมเคยเล่นดนตรีกับเมมเบอร์อยู่บ่อยๆด้วยครับ ผมเลยรู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อยก็เลยได้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกเอาไว้ด้วยครับ
Q : ได้ยินมาว่ามีความคิดที่อยากจะไปร้องเพลงบัสกิ้งที่ต่างประเทศหรอคะ?
เพราะว่าการไปต่างประเทศค่อนข้างยากครับ ตอนนี้ดูเหมือนว่าความคิดนั้นก็ค่อยๆ หายไปทีละนิดแล้วครับ แต่ถ้าได้ไปต่างประเทศแล้วล่ะก็ เป็นที่ไหนก็ได้ครับ ผมอยากไปทัวร์บัสกิ้งที่ยุโรปในสถานที่ที่โรแมนติก ไม่ว่าจะเป็น อังกฤษ ฝรั่งเศส หรือที่อื่นๆครับ แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วก็มีข้อเสียอยู่นะครับ คือผมค่อนข้างเป็นคนที่ขี้กลัวและมีการป้องกันตัวเองเลยมักจะระมัดระวังอยู่ตลอดครับ การที่จะไปไหนคนเดียวนั้น ผมก็อยากที่จะมีความกล้าหาญมากขึ้นกว่านี้ก่อนครับ
Q : ฉายาล่าสุด ‘แบชุนโฮ’
เป็นฉายาล่าสุดที่ผมได้ร้องเพลงโคฟเวอร์ที่มีชื่อว่า ‘Bad’ ของคริสโตเฟอร์ครับ มีท่อนที่ร้องว่า ‘My Baby’s Bad You Know’ แล้วท่อนนั้นออกเสียงเหมือนคำว่า ‘แบชุนโฮ’ ครับ ด้วยน้ำเสียงหนักแน่นขึ้น ใบหน้าที่เท่ห์ขึ้น และก็ตั้งใจเล่นกีต้าร์ด้วย และมีคอมเม้นที่ว่า ‘โอเค ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เรียกฉันว่า แบชุนโฮ/แบยูโน…’ อ่า ตลกมากเลยครับ ในตอนนั้นผมคิดไม่ถึงเลยครับ
ตอนนั้นผมก็คิดว่าสำเนียงผมก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่นะ แต่พอได้เห็นแฟนๆเล่นมีมกัน ผมเองก็มีความสุขครับ ตอนนี้ผมก็ยังใช้ฉายานี้อยู่นะครับ (หัวเราะ)
Q : ได้ยินมาว่าเมื่อตอนอัลบั้มแรก ไปคังนึงมาเพื่อที่จะได้ทำเพลงได้ แล้วไม่ทราบว่าอัลบั้มนี้ได้ไปที่ไหนมาไหมคะ?
ผมไปบ้านเพื่อนสมัยมัธยมต้นที่เคยเตะบอลด้วยกันมาครับ พ่อแม่เพื่อนผมเขาก็ทำกับข้าวให้ทาน ได้เล่นกับสุนัข ได้ดูยูทูปแล้วก็ได้ดื่มด้วยกันด้วยครับ รู้สึกว่าได้ไปใช้ชีวิตที่ผ่อนคลายมาครับ จริงๆแล้วผมเวลาดื่มเหล้าจะชอบพูดเยอะครับ เพราะผมไม่ค่อยมีเวลาได้ไปเจอเพื่อนสักเท่าไหร่ครับ ผมมักจะรู้สึกสนุกสนานเวลาอยู่ในวงเหล้ามากกว่าการดื่มเหล้าครับ แล้วผมก็ได้ดื่มเบียร์ไปประมาณแก้วนึงครับ ถ้าดื่มเบียร์เยอะๆก็ค่อนข้างที่จะมีผลเสียนะครับ ส่วนเหล้า ถ้าอยากจะอารมณ์ดีขึ้นอีก ก็ดูเหมือนจะต้องดื่มวิสกี้และไฮบอลของเบสวิสกี้นะครับ
Q : ในอัลบั้ม <CHANGE> ที่สื่อให้เห็นถึงแนวคิดที่เปลี่ยนไปของคิมแจฮวาน ที่มีเวอร์ชัน ‘ed’ ที่มีความหมายว่าเปลี่ยนแปลงจนถึงตอนนี้ และเวอร์ชัน ‘ing’ ที่แสดงให้เห็นถึงรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไป ได้มีการใส่ทัศนคติต่างๆของแจฮวานลงในอัลบั้มนี้ สำหรับแจฮวานแล้วมีการเปลี่ยนแปลงไหนที่อยากจะแสดงให้เห็นไหมคะ?
ผมอยากจะรักษาความสามารถของผมต่อไปครับ แน่นอนครับถึงแม้ว่าการแก้ปัญหาจะต้องมีการวางแผนและใช้เวลาเป็นส่วนใหญ่ แต่ในแต่ละขั้นตอนของการทำงานหนักและการเติบโตที่เป็นไปเรื่อยๆนั้น ผมก็คิดว่าผมสามารถเป็นนักร้องที่เก่งกล้าความสามารถได้ครับ เพราะฉะนั้นทุกๆครั้งที่ผมได้ปล่อยเพลงออกมา ผมก็อยากที่จะพัฒนาลองทำแนวเพลงที่หลากหลาย แต่ไม่ใช่แค่พัฒนาเพียงอย่างเดียวนะครับ ตอนนี้ผมก็กำลังลองตั้งเป้าหมายสำหรับเก็บเกี่ยวประสบการณ์อยู่ครับ
Q : ในแนวเพลงที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น แนวบริทิช ป็อป, ละติน, ป็อป, บัลลาด, แดนซ์ และอื่นๆ อะไรคือความท้าทายของการทำแนวเพลงที่หลากหลายหรอคะ?
ผมอยากลองอัพเกรดตัวเองครับ ถึงแม่ว่าผมจะไม่ได้ตั้งใจที่จะเขียนเพลงนั้นออกมา แต่ว่าผมตั้งใจที่จะสื่อออกมาด้วยแนวเพลงที่หลากหลายเพราะผมรู้สึกสนุกไปกับมันครับ ผมคิดว่าเพราะนี่คือผมครับ ผู้ที่สามารถทำเพลงขึ้นมาจนทำให้เกิดเป็นเพลง และสามารถสื่อสารออกมาด้วยแนวเพลงที่หลากหลาย ผมเลยคิดว่าผมแค่ต้องรู้สึกสนุกด้วยตัวผมเองเพื่อที่จะทำให้หลายๆ คนรู้สึกสนุกเหมือนกันกับผมครับ
Q : เพลง ‘I Wouldn’t Look For You’ ที่สร้างความประทับใจกับเสียงจังหวะต่างๆ ของกีต้าร์ด้วยทำนองละตินดั้งเดิม ฉันคิดว่าคงจะดีนะคะ ถ้าได้ลองแปลงเนื้อเพลงให้เป็นภาษาละตินหรือเพิ่มภาพลักษณ์ใหม่ๆ ลงในเพลง ด้วยเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษค่ะ
เป็นความคิดที่ดีมากๆ เลยครับ! ถ้าได้แสดงในคอนเสิร์ตก็คงจะเท่ห์น่าดูเลยครับ โดยส่วนตัวแล้ว ท่อนคอรัสมันวนเวียนอยู่ในหูผมตลอดเลยครับ ผมก็เลยคิดว่าเพลงนี้คงจะเป็นเพลงต้องห้ามสำหรับการสอบซูนึงด้วยนะครับ (หัวเราะ)
Q : เพลง ‘Pray’ ที่บรรเลงเพลงด้วยเสียงเปียโนและเสียงวงออเครสต้า ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเพลงในมิซซาและเพลง Gosple ที่หนักแน่นมากๆเลยค่ะ ไม่ทราบว่าเกี่ยวกับคาเรกเตอร์ของมาริโอ้ที่เป็นชื่อทางศาสนาคริสต์ของคุณแจฮวานด้วยไหมคะ?
ผมมักจะไปโบสถ์สัปดาห์ละครั้งครับ ตอนนั้นที่ผมยังเขียนเพลงนี้อยู่ ผมไม่สามารถทำเพลงได้เลยครับ ผมก็เลยตั้งใจไปโบสถ์เพื่อตั้งใจสวดมนต์ขอพรอย่างจริงจังเลยครับ และได้มีคำสอนจากนักบุญท่านนึงกล่าวไว้ว่า ‘พระเจ้าเยซู พระผู้เป็นเจ้าของเรา ผู้สถิตอยู่บนไม้กางเขน ท่านคอยกางแขนสองข้างของท่านอยู่เสมออยู่บนท้องฟ้า’
และยังมีประโยคที่กล่าวว่า ‘ด้วยคลื่นที่ไม่สงบนิ่ง ท่านก็ยังกางแขนรออยู่บนท้องฟ้า’ นั้นทำให้ผมได้แต่ตะโกนอยู่ในหัวว่า ‘ขอบคุณ’ ด้วยความนอบน้อมอยู่ในใจเป็นร้อยๆครั้งเลยครับ แล้วหลังจากนั้นผมก็กลับบ้าน และผมก็หยิบสมุดโน็ตขึ้นมา แล้วก็เปิดคัมภีร์ไบเบิ้ลทันทีที่ผมถึงบ้านเลยครับ เลยทำให้เกิดเพลงนี้ขึ้นมาครับ
Q : ท่อนเพลงที่ว่า ‘โลกใบนี้มีสิ่งที่อันตรายอยู่ในทุกๆวัน’ ตอนนี้แจฮวานมีอะไรที่รู้สึกอันตรายที่สุดในทุกๆวันไหมคะ?
กล้ามครับ ถ้ากล้ามผมหายไปนี่อันตรายเลยครับ ผมกลัวว่าจะหายไปครับ ก็เลยเริ่มกลับมาเช็คกล้ามทุกๆวันแล้วครับ เมื่อกี้ผมได้กินขนมห่อไปนิดนึง ก็รู้สึกได้ว่าเหมือนได้รับไขมันเข้ามา ผมก็อยากจะรีบไปฟิตเนสเลยครับ กังวลใจมากครับ (หัวเราะ)
Q : เนื้อเพลงที่ว่า ‘ฉันถูกปลอบใจ ในวันที่เหนื่อยล้า’ คืออะไรหรอคะ?
เตียงนอนปลอบใจผมครับ อ่า พอตอนนี้ผมได้ตอบออกไปก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเนื้อเพลงที่อ่อนไหวนิดนึงเลยนะครับ พอได้นอนอยู่บนเตียง ผมก็จะรู้สึกสบายใจขึ้นมาพร้อมกับเพลงแจ๊สไปด้วยก็พอแล้วครับ
Q : เพลง ‘ Without You’ ผลงานเพลงที่ได้ร่วมงานกับ HYNN
ถึงแม้ว่าจะเป็นเพลงที่พวกเราไม่ได้ทำงานพร้อมกัน เพราะตารางงานของพวกเราที่ไม่ตรงกัน แต่ก็ได้มีการอัดเพลงที่แน่ชัดและแม่นยำครับ ผมอัดเสียงด้วยความคาดหวังผลตอบรับที่ดีเลยครับ และมีหลายคนเลยครับที่ชอบเพลงนี้มากกว่าเพลง I Wouldn’t Look For You และการจัดการอัดเสียงของเพลงนี้ มีการใช้โทนเสียงสูงเลยยิ่งทำให้ดูดราม่าขึ้นไปอีกครับ
Q : เพลงของคิมแจฮวาน มีเนื้อเพลงที่เกี่ยวกับการจากลาอยู่เยอะมาก
เสียงของผม ดูเหมือนจะไปทางโศกเศร้าและโกรธเคืองครับ เสียงของผมเข้ากับเพลงเศร้าได้ดี และการแสดงสีหน้าก็ดูเหมือนจะดีขึ้นด้วยครับ ผมไม่รู้ว่าจะเป็นเพราะทางอารมณ์รู้สึกหรือทางเทคนิคกันแน่นะครับ แต่ผมคิดว่าคงจะเป็นอย่างหลังมากกว่าครับ พออายุเริ่มมากขึ้นสักปีสองปี เวลาที่ผมแสดงอารมณ์ตอนที่ร้องเพลงออกมา ก็รู้สึกดีที่อินมากขึ้นครับ ในทุกๆวันพวกเราเจออะไรที่แตกต่างกันแล้วก็ยังเจออะไรที่แปลกใหม่ด้วย ดังนั้นพรุ่งนี้เราก็จะมีความรู้สึกลึกซึ้งมากกว่าวันนี้ใช่ไหมล่ะครับ (หัวเราะ)
Q : คำว่า ‘ความทรงจำ’ สำหรับแจฮวานแล้ว อะไรที่ทำให้รู้สึกมีพลังอยู่หรอคะ?
คำว่าความทรงจำสำหรับผมนั้น ก็คือกับแกล้ม ที่เราเคี้ยวกินและลิ้มลองรสชาติกันครับ เพราะว่าเวลาที่ผมได้เจอเพื่อนๆแล้วคุยเรื่องความทรงจำต่างๆนั้น พอนึกถึงแต่ละอย่างแล้วก็ทำให้นึกถึงสถานที่ที่เคยอยู่กับคนนั้นด้วย แล้วก็ยังทำให้ผมสามารถเชื่อมโยงหลายๆอย่างได้ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมต่างๆหรืองานต่างๆได้ครับ เหมือนกับว่าได้อยู่ในห้วงความทรงจำไปสักพักเลยครับ
Q : เพลง ‘Blue Moon’ ในแนว R&B ที่มาพร้อมกับภาพลักษณ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ดวงจันทร์สีฟ้า ดวงจันทร์ขาวนวล ดวงจันทร์เต็มดวง ดวงจันทร์ข้างขึ้น ดวงจันทร์ข้างแรม แล้วนอกจากดวงจันทร์สีฟ้าแล้ว มีดวงจันทร์ลักษณะอื่นที่ชอบที่สุดไหมคะ?
สำหรับดวงจันทร์สีฟ้า เขาว่ากันว่า ถ้าเห็นแล้วขอพร พรนั้นจะเป็นจริงครับ ช่วงประถม ผมอาศัยอยู่ที่บ้านกับคุณยาย ผมได้เห็นดวงจันทร์สีฟ้า ผมก็เลยขอพรว่า ‘อยากได้เบย์เบลด’ ครับ แล้วหลายวันต่อมาผมก็ได้เบย์เบลดเลยครับ จากนั้นเป็นต้นมา ผมก็เชื่อเรื่องนี้เลยครับ แต่ว่าตอนนี้ผมค่อนข้างยุ่ง เลยไม่เห็นดวงจันทร์สีฟ้ามาสักพักแล้วครับ ถ้าได้เห็นอีกก็คงจะขอพรแค่ว่าอยากได้โปรตีน อาหารเสริม ไข่แดง แค่นี้แหละครับ
Q : เพลง ‘My Flower’ เพลงเต้นในจังหวะแดนซ์ป็อป กับเนื้อเพลงที่เหมือนกับการขอแต่งงานที่น่าประทับใจ ได้ยินมาว่ามีการใช้ดอกไม้ในการเปรียบเทียบระหว่างแจฮวานและวินดึหรอคะ?
เพลงนี้ทำขึ้นมาสำหรับแฟนๆ ครับ โดยรวมแล้วดีเลยครับ เพราะผมอยากสื่อว่าผมคือดอกทานตะวันที่คอยเฝ้ามองแต่วินดึของผม และวินดึที่สื่อถึงราวกับเป็นฤดูใบไม้ผลิ เป็นดอกแคนารีที่ถูกรดน้ำจนทำให้บรรยากาศทิวทัศน์ในฤดูใบไม้ผลิเต็มไปด้วยสีเหลืองครับ
Q : เพลง ‘Get Antsy’ เนื้อเพลงที่สื่อให้ถึงความจริงใจต่อคนรักได้อย่างน่าประทับใจ ปกติเป็นคนมีความโกรธแบบประหม่าหรอคะ?
เพลงนี้เป็นเพลงที่เขียนขึ้นมาแบบอิสระเลยครับ ปกติผมจะเขียนเนื้อเพลงเองเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ ช่วงเวลา จิตใจ ผมจะเขียนลงในกระดาษและกำลังฝึกฝนให้ทุกอย่างออกมาเป็นรูปร่างอยู่ครับ
Q : เพลง ‘Lululala’ เพลงที่ทำให้รู้สึกใจสั่นที่เกี่ยวกับฤดูที่กำลังจะมาถึง ไม่ทราบว่ามีฤดูที่ชอบที่สุดไหมคะ?
ฤดูร้อนครับ เป็นความรู้สึกที่เหมือนได้ตกลงไปในน้ำ ได้มีความสุขกับการปิ้งบาบีคิวทานกินกับเพื่อนๆเหมือนกับเป็นกิจกรรมประจำปีครับ และผมก็ว่าจะลองไปแคมปิ้งดูก็เลยซื้อเตนท์มาครับ แต่ว่าถ้าไปคนเดียวก็จะกลัวครับ ผมก็เลยคิดไว้ว่า ถ้าเพื่อนเป็นคนตั้งเตนท์ ส่วนผมก็ย่างเนื้อ ก็จะสามารถตั้งแคมป์ภายในปีนี้ได้นะครับ
Q : ช่วยบอกเล่าเรื่องราวล่าสุดที่รู้สึกสนุกสนานตื่นเต้นหน่อยค่ะ
‘วันนี้ผมได้มาถ่ายนิตยสาร Singles ครับ’ นานมากๆ แล้วที่พวกเราจะได้มาอัพรูปภาพในตำนานลงบนสื่อโซเชียลแบบนี้ ผมเลยรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้มาเก๊กหล่อแบบนี้ครับ จริงๆ นะครับ (หัวเราะ)
Q : เพลง ‘Letter to you’ เพลงแนว R&B ที่เริ่มต้นด้วยอะคาเปล่า ไม่ทราบว่าเคยเขียนจดหมายมาก่อนไหมคะ?
ผมเขียนถึงแฟนๆบ่อยเลยครับ ผมตั้งใจเขียนด้วยความรู้สึกจริงๆของผมเลยครับ เพราะว่าเป็นสิ่งที่มาจากใจจริงๆ ผมจึงเน้นที่คุณภาพมากกว่าปริมาณครับ
Q : ในขณะที่โปรโมทอัลบั้ม <Change> จบไปแล้ว มีเรื่องเล่าอะไรที่จำได้บ้างไหมคะ?
ตอนที่ผมอัดรายการเพลงอินกิกาโย ของSBS ครับ ผมได้รับแซนวิชอินกิกาโยจากเจ้าของร้านที่เป็นแฟนคลับของผม ผมรู้สึกดีใจมากเลยกล่าวขอบคุณโดยการมอบอัลบั้มเป็นการตอบแทนครับ พี่จีซองและจินฮยอกก็ได้ทานแซนวิชด้วยครับ (หัวเราะ) เขาไม่ได้ให้แค่ผมคนเดียวนะครับ แล้วผมเองก็เพิ่งเคยลองทานเป็นครั้งแรกด้วยครับ อร่อยมากเลยครับ
Q : ล่าสุดที่ได้มีการพูดคุยกับแฟนๆผ่าน ‘Bubble’ มีการติดต่อมาอยู่ตลอดเวลายิ่งกว่าแฟนหนุ่ม ถ่ายรูปบ้านให้เพราะขอให้ถ่าย อยากทราบว่ามีเหตุผลอะไรมั้ยคะ ที่ได้ตรงไปตรงมากับแฟนคลับแบบนี้
ผมแค่คิดว่าผมกำลังแชทกับวินดึ (แต่ละคน)โดยเฉพาะเลยครับ มากกว่าที่จะคิดว่าแชทแบบเป็นกลุ่มครับ ให้ความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนพูดคุยกับเพื่อนอย่างเปิดเผย เพราะผมพูดเยอะมากๆ ก็เลยส่งข้อความไปเยอะครับ ก็เริ่มจากพูดทีละนิดไปจนถึงพูดทั้งหมดเลยครับ มีทั้งถามเองตอบเอง และเหมือนคุยอยู่กับเพื่อนแบบ ‘นี่ ทำไรอยู่’ ผมจะรู้สึกสนุกกับแบบนี้ครับ แต่ว่าที่ผมพูดมากแบบนี่ จะเบื่อกันไหม ผมก็สงสัยอันนี้นะครับ วินดึ… ขอให้อย่าเข้าใจผมผิดไปนะครับ เพราะว่าผมรู้สึกผ่อนคลายจริงๆ ยังไงล่ะครับ ถ้าวินดึเข้าใจผมด้วยก็คงจะดีนะครับ (หัวเราะ)
Q : ล่าสุดในความรู้สึกของคุณแจฮวานเกี่ยวกับเทรนด์ ‘ฮิป’ คืออะไรหรอคะ?
ผมดูคลิปวิดีโอของบรูโน่ มาร์ส ,จัสติน ทิมเบอร์เลค และศิลปินท่านอื่นๆ พร้อมกับเรียนรู้เกี่ยวกับการแสดงท่าทางเวลาที่พวกเขาเวลาที่อยู่บนเวทีเยอะมากๆ ครับ ขณะที่พวกเขากำลังทำการแสดง พวกเขาสามารถทำให้ผู้ชมมองเห็นถึงความมั่นใจ เลยทำให้พวกเขาดูเท่ห์มากๆ เลยครับ ไม่ว่ายังไงผมก็จะดูคลิปวิดีโอของพวกเขาอยู่ทุกๆ วันครับ
มันไม่เหมือนการเรียนนะครับ เพราะมันเป็นเหมือนชีวิตประจำวันของผมเลย ตอนนี้ไม่มีอะไรที่ผมต้องจำอีกแล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นลักษณะการเคลื่อนไหว การแสดงท่าทาง หรือการแสดงสีหน้า เพราะผมดูคลิปเป็นร้อยครั้งพันครั้งแล้วครับ ตอนนี้ผมรู้สึกว่าร่างกายของผมจะไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวเท่าไหร่ เลยไม่รู้ว่าในตอนนั้นจะสามารถแสดงออกมาได้ดีไหมนะครับ
Q : ในอนาคต คาดหวังว่าสีประจำตัวของตัวเองคือสีอะไรหรอคะ?
สีแดงครับ ผมคิดว่าเพราะสีแดงแสดงถึงความเข้มแข็งเป็นอย่างมากที่คล้ายๆกับสีแดงเข้มครับ ราวกับดอกไม้ไฟที่กำลังเติบโตขึ้นมาในคราวเดียวและประทุแตกออกมาด้วยความปรารถนาอันแรงกล้าน่ะครับ
Original Interview from : Singles Korea, June 2021
Thai Translate by : 24jaymoon
Image : 24k_jh
Leave A Comment
You must be logged in to post a comment